นกฟินซ์ 7 สี (Gouldian Finch)

นกฟินซ์เจ็ดสี (Gouldian Finch) หรือ นกสายรุ้ง (Rainbow Finch)

เป็นนกชนิดเดียวที่ทั่วโลกขนานนามว่า "THE KING OF ALL FINCHES" หรือ "ราชาแห่งนก" ทั้งนี้เนื่องจากความงาม ของสีสันที่สะดุดตาของผู้ได้พบเห็น เป็นนกที่มีความน่าสนใจอยู่ในตัวมันเอง อุปนิสัยโดยทั่วไปเป็นนกที่รักสงบและ ไม่ดุร้าย สามารถเลี้ยงรวมกันภายในกรงเดียวกันได้หลายตัว และสามารถเลี้ยงได้ใน พื้นที่แคบ ๆ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้าน


ที่สำคัญคือเป็นนกที่รักความสะอาด และเป็นนกที่ไม่มีโรคภัยที่จะระบาดมาสู่คน เป็นนกที่มีขนาดเล็ก มีจงอยปากที่แข็งแรงและทรงพลังในการขบ กระเทาะ เมล็ดพืชเล็ก ๆ กินเป็นอาหาร มีจงอยปากสีแดงสด รูปร่างเล็ก ๆ น่าเอ็นดูแต่ละอย่างมีสีสวย, มีกิริยาปราดเปรียวว่องไว เลี้ยงดูง่ายและ เกือบไม่สิ้นเปลืองอะไร, ที่เลี้ยงและเห็นกันอยู่โดยทั่วไปนั้นส่วนมากมักเป็นนกฟินช์ นกตระกูลนี้แยกพันธุ์ออกไปเป็นชนิดต่าง ๆ เท่าที่นักเลี้ยงทั่วไปได้สะสมกันเอาไว้นั้นมีเกือบ 100 ชนิด ทั้งนี้หมายถึงชีวิตและการเป็นอยู่ได้อย่างแจ่มแจ้งแล้วเท่านั้นถิ่นกำเนิดแต่ดั้งเดิมของนกตระกูลนี้มีอยู่ในเขตร้อยอาทิเช่น แอฟริกา, ออสเตรเลีย และในแถบเอเชีย, ชนิดที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดสัตว์เลี้ยงที่นับว่าคุ้นตาดีนั้นมีชื่อเรียก แยกเป็นชนิดและสี


นกในตระกูลนี้ทุกชนิดเป็นนกแข็งแรง และปราดเปรียว, กินอยู่ก็ง่ายเกือบไม่สิ้นเปลืองอะไรเลยฉะนั้นกรงและที่อยู่อาศัยนั้น สำหรับนกฟินช์จึงไม่มีเรื่องยุ่งยากอะไรนัก ถ้าท่านมีกรงภายนอกซึ่งใช้เลี้ยงนกอื่นอยู่แล้ว เมื่ออยากเลี้ยงนกฟินช์ ท่านก็นำนกฟินช์ไปปล่อยลงได้เลย ถ้าท่านต้องการที่จะเลี้ยงดูภายในกรงแบบแขวน, หรือตั้งขนาดเล็ก ๆ ภายในห้อง นกฟินช์ก็สามารถจะอยู่ได้อย่างมีความสุข


เรื่องง่าย ๆ ที่ท่านไม่ควรลืม ถ้าหากท่านคิดจะเลี้ยงนกด้วยกรงเล็ก ๆ นั้นมีดังนี้
1.โปรดเลือกซื้อกรงที่สามารถดึงพื้นกรง, ถ้วยใส่อาหารและถ้วยน้ำ ออกมาทำความสะอาดได้สะดวกและกรงนั้นต้องมีซี่ลวดกั้นขนาดเล็กอันเป็นกรงของนกฟินช์โดยเฉพาะ
2.โปรดเลือกซื้อกรงที่ชุบโครเมียม ถ้าท่านมีงบประมาณเพียงพอ เพราะกรงธรรมดาที่ใช้สีพ่นหรือทานั้น แม้จะมีราคาถูกกว่า แต่สีก็จะหลุดแตกและเป็นสนิมในเวลาอันสั้น, กรงพลาสติกก็สวยและใช้ได้ดี ถ้ามันไม่เกิดการพลาดตกลงมา
3.โปรดเลือกซื้อกรงที่มีอุปกรณ์ภายในอยู่พร้อมเสร็จ อาทิเช่น คอน, ชิงช้า, ถ้วย, ซึ่งของเหล่านี้ กรงที่มีคุณภาพดี ย่อมมีอยู่พร้อมเสร็จ
4.โปรดตั้งหรือแขวนกรงในที่ซึ่งมีอากาศถ่ายเทได้ มีแสงสว่างพอสมควร, ไม่ถูกลมโกรกหรือถูกแดดจัดจนเกินไป


ในกรณี ที่บริเวณบ้านท่าน มีที่กว้างพอสมควรต้องการจะสร้างกรงภายนอก เพื่อรวบรวมนกฟินช์ ชนิดต่าง ๆ ทำเลที่ตั้งของกรงนั้น โดยทั่วไปแล้ว ขนาดของกรงยิ่งมากเท่าใดนกก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น แบบอย่างของกรงรวมนั้นควรสร้างเป็นรูปทรงยาวแบ่งส่วนยาวนั้นออกเป็น 3 ตอน, 2 ตอนแรกควรมีหลังคา, หนึ่งใน 2 ตอนนี้นอกจากหลังคาแล้ว ควรมีฝาปิดกั้นด้านนอกเพื่อจะได้ใช้ตอนนี้เป็นที่กินอยู่หลับนอนของนกอย่างร่มรื่น พื้นกรงของ 2 ตอนที่กล่าวนี้ควรลาดด้วยซีเมนต์, ส่วนของตอนที่ 3 ซึ่งเหลืออยู่นั้นควรให้ได้รับแสงสว่างปลอดโปร่งมากที่สุด พื้นของตอนที่ 3 ซึ่งมิได้ลาดซีเมนต์นั้นควรปลูกต้นไม้ ตกแต่ง บริเวณนี้ให้เป็น ป่าโปร่ง ด้วยพุ่มไม้เตี้ย ๆ ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก, และพืชหญ้าต่าง ๆ อาจจะวางโขดหินโบกซีเมนต์โดยขุดให้เป็นแอ่ง หรือสระเล็ก ๆ เพื่อให้น้ำสะอาดแก่นกด้วยก็ยิ่งเป็นการดี

ถึงแม้ถิ่นฐานดั้งเดิมของนกชนิดนี้จะอยู่ในเขตที่ค่อนข้างจะร้อนชื้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเลี้ยงดูนกชนิดนี้ในสถานที่ที่ต้องควบคุมความชื้นและอุณหภูมิเสมอไป เพราะอุณหภูมิในธรรมชาติก็มีขึ้นมีลงเหมือนกัน ในต่างประเทศ ผู้เพาะเลี้ยงหลายรายเล่าว่าได้เลี้ยงนกในกรงขนาดใหญ่นอกตัวบ้าน นกสามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำถึง ลบ 9 และ สูงสุดถึง 41 องศาเซลเซียส ที่สำคัญคือจะต้องมีการป้องกันลมโกรก รวมทั้งมีที่ให้นกหลบละอองน้ำฝนด้วย


ควรจัดการให้นกใหม่ ได้มีการปรับตัวให้คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมในกรงใหม่อย่างระมัดระวัง ช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือในฤดูร้อน หากมีความจำเป็นต้องปล่อยนกเข้ากรงในฤดูฝน หรือ ฤดูหนาว ควรเพิ่มวัสดุป้องกันลมและฝนให้มากกว่าปกติในช่วงแรกๆ


นกชนิดอื่นๆสามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลได้อย่างไม่ยากเย็นนัก เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงถิ่นที่อยู่ไปยังส่วนต่างๆของโลก แต่สำหรับนกฟิ้นซ์เจ็ดสีแล้วจะยากกว่ามาก ถึงแม้จะเกิดในกรงมาเป็นสิบรุ่นแล้วก็ตาม เมื่อถึงฤดูหนาวในประเทศที่อยู่ทางซีกโลกเหนือ ก็เป็นช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิในประเทศทางซีกโลกใต้ เป็นช่วงเวลาที่นกจะเริ่มผสมพันธุ์กัน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม เรื่อยไปจนถึงเดือน เมษายน สำหรับบ้านเราฤดูหนาวอากาศไม่หนาวเย็นมากนัก ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ จะมีก็แถวช่วงเดือนมีนา – เมษา ซึ่งอากาศค่อนข้างจะร้อน เมื่อนกตัวเมียเข้าสู่สภาพที่พร้อมที่จะผสมพันธุ์และวางไข่ จะสังเกตุได้จากสีของจงอยปากที่มีการเปลี่ยนแปลงไป จากสีขาวนวลๆไปเป็นสีออกน้ำตาลเทาๆ


หากมีนกมากกว่าหนึ่งคู่ การปล่อยให้นกจับคู่หรือเลือกคู่กันเองจะมีผลดีต่อการเพาะเลี้ยงมากกว่าทำได้โดยใส่ห่วงขาหรือทำเครื่องหมายไว้ที่ตัวนก แล้วปล่อยนกตัวเมียหนึ่งตัวและตัวผู้ 3 - 4 ตัวเข้าไปในกรง นกตัวเมียจะยอมให้นกตัวผู้ที่เลือกแล้วเพียงตัวเดียวให้เข้าใกล้เพื่อกระโดดขึ้นๆลงๆและร้องเพลงเพื่อเกี้ยวพาราสีกัน และจะจิกหรือบินหนีจากตัวผู้อื่นๆ การจับคู่หรือเลือกคู่นี้อาจใช้ระยะเวลาตั้งแต่หนึ่งวันไปจนถึงประมาณสิบวัน จากนั้นให้แยกนกตัวผู้ตัวอื่นๆออกไปเพื่อให้นกตัวเมียตัวอื่นได้เลือกต่อไป